TOURLINES BLOG

หมู่เกาะโลโฟเทน สวรรค์แห่งแสงเหนือ

blog-cover-07092019

เชื่อว่าความฝันของนักท่องเที่ยวไทยหลายคน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต้องมีเป้าหมายในชีวิตขอสักครั้งที่ได้เห็นแสงเหนือ แต่จะไปหาแสงเหนือดูได้ที่ไหน ในเมื่อทุกวันนี้แสงเหนือไม่ได้หากันง่ายๆ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าวันนี้จะมีหรือพรุ่งนี้แสงเหนือจะมา รู้แต่ว่าช่วงเวลาไหนแสงเหนือมักออกมาโลดแล่นเท่านั้น แล้วสถานที่ไหนแสงเหนือมักจะปรากฏให้เห็น เพราะฉะนั้นวันนี้ Tourlines จะพาคุณไปยังที่ที่แสงเหนือมักปรากฏตัวมากที่สุดอย่างเช่น เกาะโลโฟเทน แห่งประเทศนอร์เวย์ 

หมู่เกาะโลโฟเทน ดินแดนเทพนิยายที่มีชีวิต 

หมู่เกาะโลโฟเทน หมู่เกาะทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ จุดหมายที่นักท่อเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเพื่อตามล่าหาแสงเหนือ โดยหมู่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่ในเขตมณฑล Nordland ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของประเทศนอร์เวย์ 

โดยหมู่เกาะแห่งนี้ประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายหลายเกาะอยู่ติดๆกัน ซึ่งจะมีเกาะใหญ่หลักๆ ได้แก่ Austvagoya, Gimsoya, Flakstadoya และ Mpskenesoya ที่มีจุดเชื่อมต่อกันด้วยถนนสาย E10 

ภูมิประเทศของหมู่เกาะแห่งนี้ จะเป็นแบบภูเขาหินแกรนิตสูง ล้อมรอบเมือง และด้วยความเป็นหมู่เกาะจึงมีทะเลที่ล้อมรอบหมู่เกาะแห่งแบบ​ 360° แล้วมีใครรู้ไหมว่าหมู่เกาะแห่งนี้เป็นต้นแบบของอาณาจักร Arendelle ของเจ้าหญิง Elsa และ Anna ในภาพยนตร์เรื่อง Frozen ด้วย 

ซึ่งไฮไลท์ของหมู่เกาะแห่งนี้อย่างที่บอกไปก็คือ แสงเหนือนั่นเอง ซึ่งแสงเหนือ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Aurora Borealis มีลักษณะเป็นเส้นแสงมีหลายสี ทั้งแสงสีเขียว แสงสีฟ้า แสงสีชมพู แสงสีแดง แสงสีเหลือง หรือแม้แต่แสงสีม่วงด้วยเช่นกัน ปกติแล้วแสงเหนือมักจะเกิดในบริเวณแถบขั้วโลก 

ช่วงเวลาที่แสงเหนือมักปรากฏให้เห็นมากที่สุด จะอยู่ในช่วงฤดูหนาวของทางขั้วโลก ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนกันยายน ตุลาคม มีนาคม และเมษายน แล้วถ้าคุณไปช่วงวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้เมฆ มีความมืดสนิท สภาพแวดล้อมปลอดมลพิษ และยิ่งถ้าคุณไปช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 – 24.00 น. โอกาสที่คุณจะเห็นแสงเหนือสูงถึง 80% 

เสน่ห์ของหมู่บ้านประมง ที่หมู่เกาะแห่งนี้

จากที่ได้บอกไปว่าปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอย่างแสงเหนือใช่ว่าจะหาดูกันง่ายๆ ถึงแม้สภาพอากาศวันนั้นจะเป็นใจ แต่เราก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคุณจะได้เห็นแสงเหนือ 100% ซึ่งจุดนี้แหละที่เป็นเสน่ห์ของแสงเหนือ คุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคุณจะได้เห็นหรือไม่ ถ้าคุณไม่เจอก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะถือเป็นการตั้งเป้าหมายที่ต้องตามล่าหาแสงเหนือให้เจอให้ได้ แล้วที่หมู่เกาะแห่งนี้ยังมีเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่อย่าง หมู่บ้านชาวประมงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น 

  • Svolvaer village
    หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่จุดในหมู่แห่งนี้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่นับพันปี แล้วหมู่บ้านแห่งนี้ยังเป็จุดลงเรือล่องชมฟยอร์ดและปลาวาฬออร์ก้าอีกด้วย
  • Kabelvag village
    หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่เรียกว่า Rorbuer หลังแรก สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1120 รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์ Lofoten ที่จัดแสดงเรื่องราวของชาวประมงสมัยปี ค.ศ. 1800
  • A village
    หมู่บ้านประมงที่นักท่องเที่ยวจะมาดูวิวทั้งหมู่บ้าน ภูเขา ราวตากปลา สัมผัสวิถีชีวิตประมงของชาวนอร์เวย์ ที่อาศัยอยู่มานานกว่า 250 ปี

หากคุณได้ลองนึกภาพดู มีทั้งภูเขาหินแกรนิตที่ตั้งสูงตระการตา รอบล้อมไปด้วยทะเลสีฟ้าคราม ชมพระอาทิตย์ตกดิน แซมด้วยผนังบ้านสีแดงสดจากหมู่บ้านประมงโบราณ ถ้าแต้มบุญที่คุณสะสมมากพอแสงเหนือก็จะออกมาเต้นระบำบนท้องฟ้าให้คุณได้เห็น โอ้โห้ยิ่งกว่าฉากในภาพยนตร์เทพนิยายอย่างแน่นอน งานนี้ถ้าใครอยากมองดูวิวแบบนี้ให้เห็นกับตา หรืออยากมาถ่ายภาพแสงเหนือที่น้อยคนนักจะได้เห็น รีบเข้ามาจองทัวร์สแกนิเนเวียกับ Tourlines หรือสามารถติดที่ line official @tourlines ได้เลยค่ะ

นอกจากนั้น!! ถ้าคุณเป็นผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพ

ทัวร์ไลน์สได้จัดทริปสำหรับถ่ายภาพในแถบสแกนดิเนเวียให้ได้สัมผัสบรรยากาศดีๆและแหล่งท่องเที่ยวมากมาย สำหรับคุณโดยเฉพาะ

ดูรายละเอียดทริปการถ่ายภาที่สแกนดิเนเวีย  เพิ่่มเติมได้ที http://bit.ly/photo-trip-2

แชร์เรื่องราว :

Scroll to Top